สำหรับการศึกษาเริ่มที่บ้านพุพลู (หมู่ 3และ4) ก่อน
โดยทางราษฎรได้มาก่อสร้างอาคารเรียนชั่วคราวประมาณ พ.ศ. 2500 มีครูมาทำการสอน 1คน ส่วนหมู่ 1 และ 2 เริ่มมีโรงเรียนเมื่อ พ.ศ. 2507 ครูในสมัยนั้นลำบากมาก ไปกลับไม่ได้
ต้องพักอยู่กับชาวบ้าน เผชิญกับไข้มาลาเลียซึ่งชุกชุมมาก
แต่ยังมีสิ่งที่น่ากลัวกว่าไข้มาเลเลียสิ่งนั้นคือการเผชิญกับภัยทางการเมืองเนื่องจากผู้นำลัทธิคอมมิวนิสม์
มาเผยแพร่กับชาวกระเหรี่ยง ครูจึงต้องเผชิญกับภัยสองด้าน ด้านแรกคือฝ่าย ผกค. ก็ระแวงกลัวครูจะเป็นสายสืบให้กับทางราชการ
ส่วนอีกด้านหนึ่งก็กลัวราชการจะเข้าใจว่าครูฝักใฝ่กับพวก ผกค. ในสมัยนั้นจึงทำให้ครูไปทำการสอนได้ยากมาก
ส่วนทางด้านการศาสนา
แม้ในอดีตชาวกระเหรี่ยงจะนับถือผีเป็นส่วนมาก
แต่ในขณะเดียวกันก็เริ่มศรัทธาในศาสนาพุทธโดยเริ่มสัมผัสกับพระธุดงค์
โดยเฉพาะหลวงพ่อนวม แห่งวัดแจ้งเจริญ อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี และเริ่มส่งบุตรหลานไปอุปสมบท
ทั้งที่วัดแจ้งเจริญ และวัดตามหมู่บ้านใกล้เคียง ประมาณ พ.ศ. 2543 จึงเริ่มมีการสร้างวัดพุพลู เป็นแห่งแรกและประมาณ
พ.ศ. 2534สร้างวัดที่หมู่ 1 เป็นแห่งที่สองและหมู่อื่นๆ
ได้สร้างตามขึ้นมาเกือบทุกหมู่บ้านพุทธศาสนาเริ่มงอกงามตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
สำหรับประเพณีกินข้าวห่อกระเหรี่ยงนั้น
ชาวกระเหรี่ยง ได้ปฏิบัติติดต่อกันทุกปี
เป็นประเพณีเกี่ยวกับความเชื่อทางด้านจิตใจ ครอบครัวใดได้ทำพิธีนี้ จะอยู่ร่มเย็นเป็นสุข
หากจะเรียกง่ายๆตามประเพณีของไทยก็คือประเพณีรับขวัญนี่เอง
ประเพณีกินข้าวห่อกระเหรี่ยง ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน
ในการทำข้าวห่อและพิธีกรรม กิจกรรมก็ไม่ยุ่งยากซับซ้อนมากนัก
วันแรกจะเป็นวันเก็บใบผาก คล้ายกับต้นไผ่ เพื่อนำมาห่อข้าวเหนียว วันที่ 2 จะเป็นวันห่อข้าวเหนียวพร้อมต้มเพื่อให้ข้าวเหนียวสุก
วันที่ 3 จะเป็นวันกินข้าวห่อ โดยช่วงจะถึงวันที่ 3 แต่ละบ้านจะทำพิธีเรียกขวัญ
จะใช้ด้ายสีแดง ผูกที่ข้อมือสมาชิกที่อยู่ในบ้านทุกคน จะทำ 2
ช่วงๆแรกจะทำก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เรียกว่าพิธีเรียกขวัญ ช่วงที่ 2 จะทำก่อนพระอาทิตย์ตกดินเรียกว่าผูกขวัญ
ในพิธีกรรมจะมียอดข้าวห่อ ก็คือข้าวเหนียวห่อด้วยใบผากต้มจนสุก
แต่ที่เรียกยอดข้าวห่อ ก็คือ
จะตัดไม้ไผ่แล้วแบ่งเป็นเส้นเล็กๆเพื่อให้สามารถผูกได้
แล้วนำแต่ละเส้นมาผูกห่อข้าวเหนียว ไม้ไผ่แต่ละอันจะแบ่งเป็นเส้นได้จำนวนมาก
เมื่อมีจำนวนมาก เมื่อนำมามัดข้าวเหนียวทุกห่อก็จะกลายเป็นพวง เรียกว่ายอดข้าวห่อ และยังมี อ้อย 9 ชิ้น ห้วย บุหรี่ หมาก
นำทุกอย่างมาใส่ตะกร้า จุดเทียน 1 เล่ม เพื่อบอกผีเรือน ผีปู่ย่าตายาย
เมื่อทำพิธีเสร็จช่วงกลางวันจะกินข้าวห่อที่ทำกันไว้ พร้อมทั้งแจกจ่ายให้สมาชิกภายในหมู่บ้านได้รับประทาน
ประเพณีกินข้าวห่อกระเหรี่ยงนิยมทำกันในช่วงเดือน 9 ไทย หรือเดือนสิงหาคม ของทุกปี 
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.oknation.net/blog/phetbanlad/2008/09/07/entry-1
ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000118411