วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ประเพณีข้าวห่อกะเหรี่ยง 
        อำเภอแก่งกระจาน และอำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี นับว่าเป็นพื้นที่ที่มีชาวกะเหรี่ยงอาศัยอยู่มาก ชนเผ่านี้ยังยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมและรักษาสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้  ประเพณีข้าวห่อเรียกขวัญ  ซึ่งเป็นประเพณีเกี่ยวกับการเรียกขวัญ  หรือรับขวัญของบุคคลในครอบครัวที่ได้แยกย้ายกันไปทำมาหากินอยู่ที่อื่น  นาน ๆ จึงจะกลับมาเยี่ยมญาติพี่น้องสักครั้งหนึ่ง โดยหัวหน้าหมู่บ้านจึงได้กำหนดถือเอาวันพระ เดือนเก้า ซึ่งเชื่อกันว่า เดือนเก้าเป็นเดือนที่ดีที่สุด เป็นเดือนแห่งโชคลาภ เป็นวันมาพบกัน โดยยึดเอาบ้านเกิดเมืองนอนของตนเป็นที่นัดพบกัน
       การทำพิธีข้าวห่อเรียกขวัญ กำหนดจัดงานกัน ในวันพระเดือนเก้า แต่ก่อนวันงานในช่วงกลางคืนก็จะมีการทำพิธีเรียกขวัญกันก่อน คือ เวลาประมาณ ช่วงสองทุ่ม และจากนั้นก็ไปทำพิธีเรียกขวัญ และผูกข้อมือ อีกครั้งในวันต่อมา
ขั้นตอนของพิธีการ   แบ่งออกเป็น    ช่วง
๑.  พิธีเรียกขวัญ ช่วงเวลาประมาณ ๒๐.๐๐ น.  ๒. พิธีเรียกขวัญ ช่วงที่สอง เวลา ๐๔.๐๐ น.
       ในการทำการเรียกขวัญ ก็เพื่อให้ขวัญมาอยู่กับตัว การรับการผูกแขน ผู้รับจะหงายฝ่ามือให้ผู้ผูกหยิบยอดดาวเรือง กล้วยน้ำว้าสุก อ้อย ข้าวห่อ ข้าวสุกปากหม้อ มาใส่รวมกันในมือและนำยอดดาวเรืองมาลากไล่จากมือไปสู่แขน สามครั้ง เพื่อบอกเรียกขวัญ จากนั้นก็นำไปทัดหูของผู้รับ และเริ่มผูกข้อมือด้วยด้ายแดง โดยจะนำด้ายแดงจุ่มน้ำมนต์ก่อนพันข้อมือสามรอบ แล้วผูกด้วยเงื่อนตายสามครั้ง จึงตัดเศษด้ายแดงที่เหลือ  และชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของกล้วยน้ำว้าสุก อ้อย ข้าวห่อ ข้าวสุกปากหม้อ มาวางบนศีรษะ  (กระหม่อม)  เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ทุกคนจะรับประทานอาหารร่วมกัน
       ในการผูกข้อมือของการเรียกขวัญนี้ ผู้รับการเรียกขวัญจะรักษาด้ายแดงให้ติดข้อมือจนครบ ๗ วัน  แต่หากคนในสามารถรักษาเส้นด้ายไว้ได้จนถึงเทศการเรียกขวัญปีถัดไป ถือเป็นสิริมงคลยิ่งนัก
      ช่วงเวลากลางวัน ญาติพี่น้องก็จะร่วมกันกินข้าวห่อ และจะมีเพื่อนบ้านจากหมู่บ้านอื่นๆมาเที่ยวและร่วมกินข้าวห่อ โดยสามารถเข้าไปกินข้าวห่อได้ทุกบ้าน เพราะถือเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติสืบมา และในบางหมู่บ้านเมื่อทำพิธีเรียกขวัญเสร็จแล้ว จะมีการแข่งกีฬาพื้นบ้านของชาวกะเหรี่ยง เพื่อเพิ่มความสามัคคี นอกจากนั้น หนุ่มสาวยังได้มีโอกาสพบปะสังสรรค์ใกล้ชิดกัน เกี้ยวพาราสีเป็นที่สนุกสนานเพลิดเพลิน
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.m-culture.go.th/phetchaburi/index.php

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น